Category ข่าววันนี้

ดร ปวิน ตลาดหลวงถูกบล็อก

รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส : ปวิน บอก “ปิดแล้ว ก็เปิดใหม่ได้” หลังผู้ใช้ไทยไทยเข้าไม่ได้หลาย ชม.

ตลาดหลวงถูกบล็อก ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้จัดตั้งและก็บริหารจัดแจงเพจ (แอดมินเพจ) เฟซบุ๊กกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง บอกตระเตรียมชื่อใหม่ไว้แล้ว แม้กลุ่มนี้ถูกเฟซบุ๊กปิดหรือสกัดการเข้าถึงในประเทศไทย

เมื่อ 20.30 น. ของ 10 เดือนมกราคม ปวินใช้บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา Pavin Chachavalpongpun แจ้งผู้ติดตามว่า “ตลาดหลวงถูกบล็อกในไทย

Royalist Marketplace is blocked in Thailand” และก็ในเวลา 21.12 น. โพสต์อีกใจความว่า “กำลังคุยกับเฟสบุ๊ค เดี๋ยวจะมีข้อสรุปค่ะ”

รองศาสตราจารย์ที่ศูนย์เอเซียอาคเนย์ศึกษา ของมหาวิทยาลัยเกียวโต บอกว่าเขากำลังอยู่ระหว่างการติดต่อกับเฟซบุ๊กอย่างไม่เป็นทางการเพื่อสอบถามว่ามีการปิดการเข้าถึงเฉพาะพื้นที่ (geo-blocking) ต่อกลุ่มสนทนาส่วนตัวนี้ ที่มีสมาชิกถึง 2,335,260 บัญชีไหม

“คราวนี้ ไม่มีการบอกกันล่วงหน้า เมื่อตอนปิดคราวที่แล้ว คนที่เฟซบุ๊กที่ผมรู้จักโทรมาบอกก่อน” นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และลี้ภัยอยู่ในญี่ปุ่นเนื่องจากคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกล่าวกับบีบีซีไทย

“ผมเฉย ๆ กับคำสั่งปิดรอบนี้ เพราะตลาดหลวง ประสบความสำเร็จไปแล้ว… ผมเตรียมกลุ่มสำรองไว้แล้ว ปิดแล้ว ก็เปิดใหม่ได้ มีชื่อใหม่แล้ว” ดร. ปวิน กล่าว

ดร ปวิน

ความเป็นมาของกลุ่มนี้

ราวปลาย สิงหาคม 2563 กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ถูกจัดตั้งขึ้นทางเฟซบุ๊ก เปิดได้ไม่กี่วัน ก็ถูกขวางการเข้าถึงในประเทศไทย ทำให้ ดร.ปวิน และผู้เกี่ยวข้องเปิดกลุ่มใหม่ขึ้นมาโดยทันทีในชื่อ กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง เพียงสองสัปดาห์ของการเปิดกลุ่มใหม่มียอดสมาชิกเกินกว่า 1.27 ล้านคน แซงหน้ากลุ่มแรก แล้วก็สมาชิกยังสามารถเข้าถึงรายละเอียดในกลุ่มใหม่ได้ไม่ว่าที่แห่งไหนในโลก รวมทั้งในไทย

กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง โพสต์เนื้อหาวิจารณ์ราชวงศ์ไทย ในลักษณะเดียวกันกับที่ทำให้เพจกลุ่มแรกจำเป็นต้องถูกห้ามในไทย แล้วก็ส่งผลให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจรวมทั้งสังคม ร้องทุกข์กล่าวร้ายต่อกองควบคุมกำจัดการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ฟ้องกับ ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ก่อตั้งแล้วก็บริหารจัดการเพจ (แอดมินเพจ) และก็ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง

เฟซบุ๊กประกาศในตอนนั้นว่าจะโต้แย้งตามกฎหมายต่อทางการไทยที่ขอให้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการคุยกันเรื่องราชวงศ์แล้วก็สถาบันกษัตริย์ของกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส แต่ว่าดูราวกับว่าทางการไทยจะมองเห็นคำประกาศของเฟซบุ๊กเป็นเพียงคำขู่ของเสือกระดาษ

ดร. ปวินบอกกับบีบีซีไทยในการสัมภาษณ์เมื่อช่วง ก.ย. 2563 ว่า “ถ้าคุณมีเวลาปิดกลุ่ม ผมก็มีเวลาไปเปิด คุณปิด ผมเปิด คุณปิด ผมเปิด”

ดร ปวิน แอดมินกลุ่มตลาดหลวง

อยากรู้เรื่องเจ้าต้องยอมรับความเสี่ยง

เนื้อหาหลักของการพูดคุยกันในกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง เน้นที่สถาบันสูงสุดของไทย มีเรื่องมีราวความลำบากของราษฎร และการเมืองอื่นๆแทรกอยู่บ้าง ยิ่งกว่านั้น ยังมีผู้โพสต์วิดีโอการบรรยายทางวิชาการ ที่มีรายละเอียดเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการผู้หลบภัย ที่ผู้ติดตามเขายกให้เป็น “พ่อ” ตัวจริงแห่งข้อมูลรอบด้านเกี่ยวกับสถาบันชั้นสูงของประเทศ

ดร.ปวิน สารภาพว่าสิ่งที่สนทนาเปลี่ยนกันในกลุ่มมีโอกาสทำให้ลูกเพจสุ่มมีโอกาสเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายเหมือนกับเขา

“ผมรู้เรื่องความเสี่ยงของสมาชิกที่ต้องการทราบเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ สำหรับเพื่อการต่อสู้ใดๆก็ตามโดยเฉพาะเพื่อระบบประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยิบเอาหลักสำคัญที่หวั่นไหว หัวข้อต้องห้ามในสังคมมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน (มากล่าว) มันมีความเสี่ยงเสมอ ผมมีความคิดว่าคนที่กำลังต้องการจะค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์จะต้องเห็นด้วยข้อมูลที่ตรงนี้ว่ามีความเสี่ยง”

แม้กระนั้นเขาเห็นว่าการที่กลุ่มมีสมาชิกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นภูมิป้องกัน และก็แสดงให้เห็นว่าคนได้ก้าวข้ามความกลัวที่จะกล่าวเรื่องต้องห้ามนี้แล้ว

ดร ปวิน รอยัลลิสต์มาร์เกตเพลส

ตลาดหลวงถูกบล็อก แต่สุดท้ายก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ใน การสัมภาษณ์ เมื่อ 10 ม.ค. ดร. ปวินบอกว่า ความสนใจ และ การ พูดคุย ใน กลุ่ม กลับ มา คึกคัก อีกครั้ง หลัง ข่าว พระอาการ ประชวร ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ถูกเผยแพร่ ผ่าน ประกาศ สำนักพระราชวัง

“ช่วงนี้ เราเสนออะไรที่เซนซิทีฟออกไปทุกวัน ความสนใจจึงกลับมามากขึ้น”

การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันชั้นสูงของเขาอย่างต่อเนื่องทำให้เขาพบเจอกับการคุกคามในประเทศญี่ปุ่น

เมื่อ 8 มิ.ย. 2665 ศาลเมืองเกียวโตพิพากษ์ติดตะรางชายคนญี่ปุ่นวัย 43 ปีที่บุกเข้ามาทำร้าย รองศาสตราจารย์ ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการและก็ผู้อพยพทางการเมืองในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2563 เป็นเวลา 20 เดือน ใน 2 ข้อผิดพลาด คือ ละเมิดที่อยู่อาศัย และก็ทำร้ายร่างกาย

เมื่อเวลา 23.10 น. ของ 10 เดือนมกราคม Nuttigar Woratunyawit แอดมินของกลุ่มตลาดหลวงก็โพสต์ว่า

“ด้วยบารมีล้นฟ้าของสมเด็จแม่ปวิน ตลาดหลวงเรากลับมาดำเนินการตามปกติแล้วนะคร่า ขอบคุณชาวสมาชิกตลาดหลวงที่ช่วยกันสวดมนต์จนมาร์ค ซัคเห็นใจ”

ที่มา สำนักข่าว BBCThai

1 โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5

โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5

โควิดสายพันธุ์ใหม่ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาอย่าง XBB.1.5 ทำให้เกิดความไม่สบายใจด้วยเหตุว่ามันแพร่ระบาดอย่างได้อย่างรวดเร็ว

นอกเหนือจากในสหรัฐฯ แล้ว การแพร่ระบาด ของ สายพันธุ์ใหม่ นี้ ก็ เริ่ม มี จำนวน มากขึ้น ใน สหราชอาณาจักร เช่นกัน แล้วเราจำต้องทราบอะไรบ้างเกี่ยวกับ XBB.1.5 เพื่อเตรียมรับมือกับมัน

2โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5

โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5 คืออะไร รวมทั้งลักษณะของมันเป็นอย่างไร

มันเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยที่แยกตัวมาจากโอมิครอนที่นับว่าเป็นสายพันธุ์หลักของโลกอยู่ในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์มาจาก อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา ที่เคยเป็นสายพันธุ์หลักมาก่อนหน้านี้

โอมิครอนเป็นไวรัสที่มีคุณภาพเหนือกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายชนิดที่ผ่านมาทั้งหมดนับตั้งแต่เริ่มของการระบาดใหญ่ไปทั้งโลกเมื่อปลายปี 2021 และทำให้เกิดสายพันธุ์ย่อยจำนวนมากซึ่งทำให้แพร่ระบาดได้มากกว่าสายพันธุ์ย่อยตัวเดิม

ลักษณะของ XBB.1.5 นั้นมีความเหมือนกับลักษณะของโอมิครอน แม้กระนั้นก็ยังเร็วเกินไปที่จะการันตีว่าอาการคล้ายคลึงกันใช่หรือไม่ โดยคนเจ็บส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยตัวนี้มักมีอาการเหมือนเป็นหวัด

XBB.1.5 ติดได้ง่ายกว่าหรือเป็นอันตรายมากกว่าสายพันธุ์ย่อยก่อนหน้าหรือไม่

XBB.1.5 ปรับปรุงมาจาก XBB ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในประเทศอินเดียในเดือน ส.ค. 2022 แม้กระนั้นยังไม่ได้จัดอยู่ในจำพวกที่เรียกว่า “สายพันธุ์ที่น่ากังวล” โดยหน่วยงานด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ต่อมาเริ่มแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือน เดือนกันยายน 2022

XBB มีการกลายพันธุ์ที่ช่วยทำให้เอาชนะภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ แต่คุณคุณลักษณะเดียวกันนี้ยังลดความรู้ความเข้าใจในการติดโรคในเซลล์ของผู้คนด้วย

ศ.จ. เว็นดี บาร์เคลย์ จากอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน บอกว่า XBB.1.5 มีการกลายพันธุ์ที่รู้จักกันในชื่อ F486P ซึ่งมีความสามารถสำหรับในการยึดเกาะกับเซลล์ในเวลาที่ยังคงหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ ทำให้แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น

เธอพูดว่า ความเคลื่อนไหวทางด้านวิวัฒนาการกลุ่มนี้เป็นราวกับก้าวแรกของเส้นทาง เนื่องจากว่าเชื้อไวรัสมีพัฒนาการเพื่อค้นหาแนวทางการใหม่สำหรับในการเลี่ยงกลไกการคุ้มครองตัวเองของร่างกาย

นักวิทยาศาสตร์จากองค์การอนามัยโลก (WHO) การันตีเมื่อ 4 เดือนมกราคม ว่า XBB.1.5 มี “การได้เปรียบสำหรับการเติบโต” เหนือสายพันธุ์ย่อยอื่นๆทั้งหมดที่พบในปัจจุบัน

แต่พวกเขาบอกว่าไม่มีข้อชี้ชัดว่ามันร้ายแรงหรือเกิดอันตรายมากกว่าสายพันธุ์ย่อยที่ผ่านมาอย่างโอมิครอน

WHO บอกว่าจะติดตามผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยในห้องปฏิบัติการ ข้อมูลตามโรงพยาบาล รวมทั้งอัตราการได้รับเชื้ออย่างสนิทสนม เพื่อหาข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อคนป่วย

XBB.1.5 แพร่กระจายไปที่ใดบ้าง

กว่า 40% ของผู้ติดเชื้อโรคโควิดในสหรัฐอเมริกาคาดว่าเกิดจากสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ทำให้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศ

เมื่อต้นเดือน ธ.ค. 2022 ผู้ติดเชื้อโรคสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 มีสัดส่วนเพียง 4% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ซึ่งทำให้ขณะนี้ XBB.1.5 ได้แซงหน้าโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่นๆอย่างเร็วทันใจ

การเข้ารับการรักษาในโรงหมอของผู้เจ็บป่วยโควิดเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทั่วสหรัฐอเมริกา

สำนักงานความมั่นคงยั่งยืนด้านสุขภาพที่สหราชอาณาจักร (UK Health Security Agency) มีระบุจะออกรายงานเกี่ยวกับสายพันธุ์ที่แพร่ไปในสหราชอาณาจักรในอาทิตย์หน้า และก็อาจมีการกล่าวถึงสายพันธุ์ XBB.1.5

3โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5

สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหราชอาณาจักรได้หรือไม่

ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ก็มีความเป็นไปได้

สหราชอาณาจักรเกิดการแพร่ระบาดของโอมิครอน 5 ระลอกในปี 2022 รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของปริมาณคนป่วยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ตัวเลขคนเจ็บประจำสัปดาห์จนกระทั่งวันเสาร์ที่ 17 ธ.ค. จาก Sanger Institute หรือสถานบันแซงเกอร์ ในเคมบริดจ์ทำให้เห็นว่า 1 ใน 25 ของผู้เจ็บป่วยโควิดในสหราชอาณาจักรเป็น XBB.1.5

แต่ข้อมูลนั้นมาจากตัวอย่างเพียงเก้าตัวอย่าง ดังนั้นอาจจะต้องรอคอยอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่าการแพร่ระบาดจะเป็นอย่างไร

ศาสตรจารย์บาร์เคลย์กล่าวว่า เธอคาดว่าจะมีผู้เข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลมากยิ่งขึ้นในสหราชอาณาจักร ถ้าสายพันธุ์ย่อยเริ่มแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักร “ดังที่เราคาดไว้”

ศาสตราจารย์พอล ฮันเตอร์ จาก University of East Anglia หรือมหาวิทยาลัยแห่งอีสต์อังเกลีย กล่าวว่า “มีความน่าจะเป็นไปได้ที่ XBB.1.5 จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกแรกในสิ้นเดือนนี้ แต่เราไม่สามารถที่จะมั่นใจได้”

นักวิทยาศาสตร์กังวลเกี่ยวกับ XBB.1.5 หรือไม่

ศ.จ.บาร์เคลย์กล่าวว่า เธอไม่ได้กลุ้มอกกลุ้มใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับประชากรทั่วไปของสหราชอาณาจักร เหตุเพราะไม่มี “สัญญาณบ่งชี้” ว่า XBB.1.5 จะ “ทะลวง” เกราะป้องกันการเจ็บป่วยร้ายแรงที่ผู้คนได้รับจากวัคซีนกันไปเป็นส่วนมากแล้ว

แต่เธอกลุ้มใจเกี่ยวกับผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง ศูนย์รวมถึงผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานบกพร่อง ซึ่งอาจมีเกราะป้องกันที่บางครั้งอาจจะน้อยกว่าจจากการได้รับวัคซีนโควิด

ศาสตราจารย์ฮันเตอร์กล่าวว่า เขาไม่เห็นหลักฐานว่า XBB.1.5 มีความร้ายแรงมากกว่า ซึ่งมีความหมายว่าอาจจะไม่ “ทำให้คุณจะต้องเข้ารับการดูแลรักษาตัวที่โรงหมอหรือฆ่าคุณ” มากยิ่งกว่าสายพันธุ์โอมิครอนที่มีอยู่

“เป็นเรื่องน่าขบขันที่ทุกคนมุ่งความพอใจไปที่สายพันธุ์ย่อยที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นจากจีน แต่แท้จริงแล้ว XBB.1.5 มาจากสหรัฐฯ” เขากล่าวเสริม

ศ.จ.เดวิด เฮย์มันน์ จาก London School of Hygiene and Tropical Medicine ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อนในลอนดอน ยอมรับว่ายังต้องอาศัยเวลาอีกพอควรที่จะศึกษาเกี่ยวกับสายพันธุ์ย่อยตัวปัจจุบันนี้

แม้กระนั้นเขากล่าวว่าไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ในประเทศอย่างอังกฤษ ซึ่งมีการฉีดยาในขั้นสูงแล้วก็การรับเชื้อของประชากรมาก่อนหน้านี้

ความหนักใจของเขาคือประเทศต่างๆยกตัวอย่างเช่น จีน ซึ่งมีทั้งยังจำนวนผู้รับวัคซีนที่น้อยและก็ภูมิต้านทานตามธรรมชาติยังไม่มากพอ อันต่อเนื่องมาจากการปิดประเทศที่ยืดเยื้อ

“จีนจะต้องแบ่งปันข้อมูลทางสถานพยาบาลเกี่ยวกับผู้ที่ติดเชื้อโรคเพื่อดูว่าโควิดสายพันธุ์ย่อยกลุ่มนี้มีพฤติกรรมอย่างไรในกลุ่มประชากรที่ไม่มีภูมิต้านทาน” ศ.จ.เฮย์มันน์กล่าว

อนุทิน

โควิด-19 : ไทยไม่มีมาตรการเพิ่มต่อนักท่องเที่ยวจีน ยึด "เท่าเทียมทุกชาติ"

โควิด 19 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐที่ปรึกษาและรัฐข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ว่าการกระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมเสนอวิธีการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่จะออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ยึดหลักปฏิบัติเสมอภาคทุกชาติและเป็นไปตามมาตรฐานทางด้านวิชาการ พร้อมตรวจเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ผู้เดินทางจำเป็นต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม และมีรับรองสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19

นี่เป็นชุดมาตรการล่าสุดที่เริ่มกระจ่างแจ้งขึ้น หลังจากหลายประเทศทั้งโลกเริ่มครัดเคร่งมาตรการตรวจคัดเลือกกรองนักเดินทางจากจีน จากการยกเลิกหลักเกณฑ์การกักกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากเมืองนอกเริ่มเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566

นักท่องเที่ยวจีน

นายอนุทินบอกว่าจะเสนอมาตรการชุดนี้ในวันที่ 5 มกราคม

ซึ่งมีรายงานว่า เป็น การ ประชุม ร่วม ระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงท่องเที่ยว และ กีฬา และกระทรวงคมนาคม

รองนายกฯ และก็ รมว. สาธารณสุข คาดคะเนด้วยว่า นักเดินทางจีนจะทยอยเดินทางมาประเทศไทยในไตรมาสแรกถึง 3 แสนคน

ที่ผ่านมา ตอนวันที่ 30 ธันวาคม 2565 คณะกรรมการทางวิชาการภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ชี้ว่าการพิจารณามาตรการควรจะคำนึงถึงวิธีการเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางวิชาการ ความปลอดภัยสุขภาพ เศรษฐกิจ รวมทั้งสังคม

มาตรการที่ออกมาในวันนั้น อย่างเช่น การตรวจเอกสารรับประกันการได้รับวัคซีนโควิด 19 แล้วก็กำหนดให้ผู้เดินทางซื้อรับรองสุขภาพเดินทางระยะสั้น ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย

ในการแถลงหลังการประชุมประธานกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ (4 เดือนมกราคม) นายอนุทินพูดถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทยมีลัษณะทิศทางต่ำลง โดยข้อมูลวันที่ 25-31 ธ.ค. 2565 มีคนเจ็บรักษาในโรงพยาบาล 2,111 ราย เฉลี่ย 301 รายต่อวัน และผู้เสียชีวิต 75 ราย เฉลี่ย 10 ราย ต่อ วัน โดย เกือบ ทั้งหมด ยัง เป็น กลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่ได้ รับ เข็มกระตุ้น หรือ ได้ รับ เข็ม กระตุ้น นานเกิน 3 เดือนขึ้นไป

คุมเข้มจีน นักท่องเที่ยวจีน โควิด 19

ยืนยันไทยพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด 19 ปรับมาตรการตามเชื้อที่กลายพันธุ์

นายอนุทินบอกว่า สำหรับในการจัดเตรียมรับนักท่องเที่ยวก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา มีการประชุมปรึกษาขอคำแนะนำด้วยกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ แล้วก็กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการประชุมของคณะกรรมการด้านวิชาการ ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีความเห็นตรงกันว่าควรปฏิบัติตามทางโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และก็ปฏิบัติกับผู้เดินทางจากทุกประเทศอย่างเสมอภาค ไม่ใช้มาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อกัดกันผู้เดินทางจากประเทศใดประเทศหนึ่ง

เขาเจาะจงเพราะ ไทยมีวิธีการป้องกันควบคุมโรคตามหลักวิชาการและก็เป็นไปตามมาตรฐานโลกอยู่แล้ว พร้อมด้วยยืนยันว่าระบบสาธารณสุขของไทยยังมีความพร้อมเพรียงรองรับเหตุการณ์รีบด่วน ช่วงนี้มีการใช้เตียงระดับ 2-3 เพียง 5.2% และก็มีแผนเตรียมความพร้อมหากเจอการระบาดของโรคที่รุนแรงมากขึ้น

นอกจากนั้น จะมีการติดตามและก็ประเมินเหตุการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 เพื่อปรับมาตรการตามสถานการณ์ของเชื้อกลายพันธุ์

คุมเข้มจีน โควิด 19 อนุทิน

โควิด 19 มาตรการรับนักท่องเที่ยวจีน

นายอนุทิน ยังเผยถึงคำแนะนำมาตรการด้านสาธารณสุขรองรับผู้เดินทางจากต่างแดนที่จะเสนอในวันที่ 5 เดือนมกราคม นี้ ตัวอย่างเช่น ก่อนเข้าประเทศไทยให้ฉีดวัคซีนโควิด 19 อย่างน้อย 2 เข็ม ถ้าหากมีลักษณะอาการเจ็บไข้ทางเดินหายใจ ควรเลื่อนการเดินทางแล้วก็รักษาให้หายก่อนเพื่อลดการแพร่โรค และก็ให้ซื้อประกันสุขภาพเดินทางที่ครอบคลุมการดูแลและรักษาโรคโควิด-19 ก่อนเข้าประเทศ

ส่วนมาตรการขณะอาศัยในไทย จะมีการให้คำปรึกษาผู้เดินทางปกป้องตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เป็นต้นว่า สวมหน้ากากเมื่ออยู่ภายในเขตพื้นที่สาธารณะรวมทั้งขนส่งสาธารณะ การล้างมือบ่อยๆการตรวจคัดกรองด้วย ATK และก็หากมีอาการเจ็บป่วยร้ายแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล

กรณีเดินทางออกจากประเทศไทยและประเทศปลายทาง มีนโยบายตรวจคัดเลือกกรองก่อนเข้าประเทศ พร้อมข้อเสนอแนะให้พักในโรงแรม SHA+ ซึ่งจะมีบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19

นอกจากนั้นยังมีแนวทางการเฝ้าระวังโรคกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศที่มีลักษณะอาการฟุตบาทหายใจ โดยให้ได้รับการตรวจด้วย ATK แล้วก็วิธี PCR และตั้งขึ้นศูนย์ทำการติดตามสถานการณ์โรคและก็โต้ตอบคราวฉุกเฉิน

รัฐมนตรีว่าการ สาธารณสุข ยังระบุถึง การกำหนดกฏเกณฑ์ในการปรับมาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อโรคในอัตราสูงหรือพบเชื้อกลายพันธุ์ รวมทั้งเฝ้าระวังรวมทั้งตรวจเชื้อโควิด-19 ในน้ำเสียจากเครื่องบินด้วยอีกมาตรการหนึ่ง

คาดนักท่องเที่ยวจีนมาไทยเดือน ม.ค. 60,000 คน

นายอนุทินบอกว่า จากการประเมินการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรกในเดือน ม.ค.-มี.ค. 2566 มีโดยประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน

โดยคาดหมายถึงจำนวนในแต่ละเดือน ยกตัวอย่างเช่น เดือน ม.ค. 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน แล้วก็ มี.ค. 150,000 คน โดยจะมากขึ้นอย่างค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เนื่องด้วยปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด มีระยะเวลาสำหรับในการขอทำหนังสือเดินทางและก็การขอวีซ่า รวมทั้งรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักเดินทางที่เดินทางด้วยตัวเองและก็เป็นกลุ่มนักทัศนาจรระดับบนที่มีกำลังซื้อ

ขอขอบคุณสำนักข่าว BBC

ชาวจีน แห่ตุนลูกพีชกระป๋อง

ทำไมชาวจีนแห่ตุนลูกพีชกระป๋อง ท่ามกลางการระบาดของโควิด?

ชาวจีน แห่ซื้อลูกพีชบรรจุกระป๋อง จนของแทบจะขาดตลาด หลังจากมีความเชื่อ ว่าสามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้ เพื่อแทนที่ยาแผนปัจจุบัน ที่กำลังขาดแคลน จนสื่อจีนต้องออกประกาศเตือนว่าไม่เป็นความจริง

นอกจากลูกพีชกระป๋องแล้ว มะนาว แล้วก็น้ำอิเล็กโทรไลต์ ก็เปลี่ยนเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูงในจีนเหมือนกัน เพราะเชื่อว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันรวมทั้งรักษาโรคได้

ความตื่นตระหนกของประชาชน เกิดขึ้นหลังจากที่จีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดเป็นศูนย์ ทำให้สถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ทำให้โรงพยาบาลเต็มไปด้วยคนไข้ และก็ยารักษาโรคมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ

สาเหตุที่คนจีนแห่ซื้อกักตุนลูกพีชกระป๋อง
สื่อทางการของจีนจะต้องออกมาประกาศเตือนประชาชน หลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลแบบผิดๆ ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คว่า ผลไม้ประเภทลูกพีช ที่บรรจุกระป๋องนั้นเป็นยาวิเศษ สามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้ ทำให้ประชาชนเป็นจำนวนมากเริ่มกักตุนลูกพีชกระป๋อง ในระหว่างจีนเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ และก็เตรียมเปิดประเทศ

โดยความต้องการลูกพีชกระป๋องในตลาดนั้นพุ่งขึ้นสูงมาก จนกระทั่งผู้ซื้อในจีนไม่สามารถที่จะสั่งซื้อได้ แม้จากแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ด้วยเหตุว่าไม่มีสินค้าหลงเหลืออยู่ในสต๊อก

ด้านเหอหม่า เซียนเซิง ตัวแทนจำหน่ายของชำออนไลน์ บอกว่า ยอดสั่งซื้อลูกพีชกระป๋องหลังจากที่จีนประกาศ ยกเลิกมาตรการคุมโควิดเป็นศูนย์เพิ่มสูงขึ้นมาก และถูกสั่งซื้อจนหมดสาขา ในเซี่ยงไฮ้ในวันถัดมา เหมือนกันกับซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่อย่าง อัลดี รวมทั้งคาร์ฟูร์ ที่มีรายงานว่า มีประชาชนแห่มาซื้อลูกพีชกระป๋องเป็นจำนวนมาก ในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ผ่านมา

ลูกพีช

หลิว เฉิน ชาวจีน วัย 23 ปี ระบุกับ ซิกซ์ โทน สื่อของจีนว่า

มันถือเป็นจารีตประเพณีที่ทุกครั้งที่เราป่วย เราจะรับประทานพีชกระป๋อง ด้วยเหตุว่ามันจะช่วยทำให้เราหายจากอาการป่วยได้ การอ่านออกเสียงคำว่า พีช จะคล้ายกับคำว่า หลบหนีในจีน ดังนั้นเทพแห่งลูกพีชกระป๋องก็จะมาให้พรแก่เด็กๆ ทุกคน

ขณะที่บริษัทต้าเหลียน ลีซัน ฟู้ด หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตอาหารกระป๋อง รายใหญ่ที่สุดของจีน ก็ยังออกมาโพสต์ข้อความว่า “Canned yellow peaches ≠ medicines!” ซึ่งก็คือพีชกระป๋องไม่ได้มีผลทางยา แต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า ลูกพีชกระป๋องมีเพียงพอ ไม่จำเป็นที่จะต้องตระหนกตกใจ และไม่ต้องรีบกักตุนซื้อไว้

หนังสือพิมพ์ไชน่าส์ เดลี สื่อทางการ ของรัฐบาลจีน ได้เผยแพร่แถลงการณ์ จากรองผู้อำนวยการ เกาเสี่ยวหลิง แห่งโรงพยาบาลชานซี เพื่อลดความตื่นตระหนก ของประชาชน ที่หายารักษาโรคไม่ได้ จนพยายามกักตุนผลไม้กระป๋องดังกล่าว โดยมีเนื้อหาบอกว่า ลูกพีชเหลือง ที่หั่นเป็นชิ้นและบรรจุกระป๋อง หรือขวดโหลนั้น ไม่ใช่ยาวิเศษที่สามารถรักษาอาการไข้หรือไอ แม้ว่าจะมีวิตามินซีสูง แต่ว่าก็ไม่ได้มีข้อยืนยันทางด้านวิทยาศาสตร์ ถึงสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการ ของโรคโควิด-19 แต่อย่างใด โดยระบุว่า พีชกระป๋องก็คล้ายๆ กับของหวาน ที่เป็นยาหลอก เหมือนกับขนมเค้ก หรือชานม ที่รับประทานเข้าไป เพื่อให้หายเครียดเท่านั้น

นอกเหนือจากความเชื่อเรื่อง ลูกพีชกระป๋อง ที่เป็นความเชื่อของ ชาวจีน ทางตอนเหนือมานานแล้ว ยังมีการเผยแพร่ สูตรปรุงยาต่างๆ ที่ทำเองจากที่บ้าน ซึ่งก็มีประชาชน นำไปทำตามเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ส้มนึ่งรับประทานกับเกลือ ที่สามารถใช้แทน ยาแก้เจ็บคอได้ ฯลฯ นอกจากนั้น มะนาว รวมทั้งน้ำอิเล็กโทรไลต์ ก็กลายเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูงในจีนเช่นกัน เพราะเหตุว่าเชื่อว่ามีประสิทธิภาพ ในการป้องกัน แล้วก็รักษาโรคได้

ส้ม

ความต้องการน้ำอิเล็กโทรไลต์พุ่งกระฉูด

ข้อมูลของเว็บไซต์แพนเดลี น้ำอิเล็กโทรไลต์ หรือเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของอิเล็กโทรไลต์ ก็เป็นสินค้าอีกประเภทหนึ่ง ที่ขาดแคลน แล้วก็หมดสต๊อกในขณะนี้ด้วย โดยเครื่องดื่มอิเล็กโทรไลต์ เป็นเครื่องดื่มที่มีแร่ธาตุ ที่ประกอบไปด้วยเกลือโซเดียม รวมทั้งโพแทสเซียมซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณน้ำ และไอออนในร่างกาย ภายหลังจากสูญเสียน้ำในร่างกาย ไม่ว่าจะจากการออกกำลังกาย หรือจากอาการท้องเสีย หรืออาเจียนก็สามารถดื่มได้

สถิติจากเกงกิ ฟอเรสต์ บริษัทเครื่องดื่มชั้นแนวหน้าของจีนระบุว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมายอดจำหน่ายของเครื่องดื่มที่ทำจากน้ำอิเล็กโทรไลต์ เพิ่มขึ้นถึง 1,327 เปอร์เซ็นต์แบบเดือนต่อเดือน ส่วนยอดขายในรอบสัปดาห์ในแพลตฟอร์มเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นถึง 1,000 เปอร์เซ็นต์ แบบเดือนต่อเดือน

ขณะที่ในช่วงวันที่ 7-8 ธันวาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายน้ำอิเล็กโทรไลต์ ทางแพลตฟอร์มเดลิเวอรีอาหารเพิ่มขึ้นไปถึง 2,000 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

โดยเครื่องดื่มอิเล็กโทรไลต์ได้รับความนิยมสูงมากขึ้นในจีน ตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 เนื่องมาจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน เคยให้คำแนะนำ เกี่ยวกับการป้องกันโควิด-19 เมื่อปี 2020 ว่าให้ประชาชนดื่มเครื่องดื่ม ที่มีอิเล็กโทรไลต์ ในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนั้นมณฑลหูหนานยังเคยมีการเปิดเผยแผนการรักษาและป้องกันโควิด-19 ด้วยการให้ดื่มน้ำจำพวกนี้ทางสื่อออนไลน์ ทำให้ยอดขายพุ่งสูงในทันที

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ในช่วงที่ยารักษาโรคกำลังขาดแคลนอย่างมาก ไม่ใช่เฉพาะแต่ยารักษาโควิด-19 เท่านั้น แต่รวมทั้งยารักษาโรคหวัดธรรมดา ที่เกลี้ยงแผง และก็ร้านขายยา ทำให้ชาวจีนต่างหาที่พึ่งพิงทางใจ และก็วิธีการพึ่งตนเองในการรักษาและก็ป้องกันโรค แม้ว่าสูตรยาผีบอกที่ว่ามาจะได้ผลหรือไม่ก็ตาม.

เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นในสหรัฐเมื่อปี 2563 โดยมีคนประเทศอเมริกาจำนวนมากแห่ซื้อน้ำส้มเพื่อกักตุนโดยมีความเชื่อว่า การบริโภควิตามินซีจากน้ำส้มเป็นจำนวนมาก จะช่วยป้องกันหรือรักษาโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งต่อมาภายหลัง องค์การอนามัยโลกได้ออกมาอธิบายว่าความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ที่มา :sixthtone, แชนแนลนิวส์เอเชีย, ซีเอ็นเอ็น

เรือหลวงสุโขทัย จมลงใต้ผิวน้ำ

เรือหลวงสุโขทัยจมลงใต้ผิวน้ำ เมื่อช่วงก่อนเที่ยงคืน ตำนานเกือบ 36 ปีรับใช้กองทัพเรือไทย

เรือหลวงสุโขทัย เรือคอร์เวตของกองทัพเรือที่มีอายุเกือบจะ 36 ปี ประสบอุบัติเหตุเรือเอียงหลังคลื่นลมแรง น้ำทะเลเข้าเครื่องไฟฟ้าแล้วเกิดดับ ล่าสุดจมลงใต้ผิวน้ำแล้ว เปิดตำนานเรือรบที่รองรับการรบแบบ 3 มิติ ทั้งทางอากาศ สงครามผิวน้ำ และก็ปราบเรือดำน้ำ “โฆษกทัพเรือ” เปิดเผย น้ำทะเลเข้าเครื่องทำไฟฟ้าดับ และก็คลื่นลมแรงทำเรือเอียง

พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เผยถึงมูลเหตุเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียง เป็นผลมาจากคลื่นลมแรง และเครื่องไฟฟ้าดับทำควบคุมเรือไม่ได้ ยันกำลังพลทั้งหมดไม่เป็นอันตราย

จากกรณี มีรายงานว่า เรือหลวงสุโขทัย ประสบเหตุเรือเอียง 60 องศา มีต้นเหตุจากเครื่องจักรใหญ่ และเครื่องจักรช่วย ขัดข้อง ทำให้น้ำย้อนไหลกลับเข้าไปในตัวเรือ พร้อมเร่งระบายน้ำ หากระบายไม่ได้ ก็ต้องสละเรือ

เรือคอร์เวตของกองทัพเรือ

วันที่ 18 ธ.ค. “กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ” ออกมาชี้แจงเหตุดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า

“กองทัพเรือ ชี้แจงกรณีเรือหลวงสุโขทัยตัวเรือมีอาการเอียงจากคลื่นลมแรง สาเหตุจากเครื่องไฟฟ้าดับ พร้อมทั้งได้ออกคำสั่งให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ รวมทั้งประสานหน่วยงานภายนอก เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน ปัจจุบันนี้กำลังพลทั้งหมดปลอดภัย พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกทัพเรือ อธิบายกรณีเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียง ตามที่ปรากฎข้อมูลข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ นั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะเรือหลวงสุโขทัยกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสบเหตุเรือมีอาการเอียงเหตุเพราะตอนนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ แล้วก็มีผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานส่งผลให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ แล้วก็ทำให้น้ำเข้าข้างในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงในเวลาถัดมา

ทั้งนี้เมื่อกองทัพเรือได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงได้ออกคำสั่งให้เรือรบแล้วก็อากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกเหนือจากนั้นได้ประสานหน่วยภายนอกร่วมให้การช่วยเหลือ ปัจจุบัน เรือหลวงกระบุรีได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างเร่งให้ช่วยเหลือกำลังพลของ เรือหลวงสุโขทัยเป็นอันดับแรก สำหรับเรือหลวงสุโขทัยยังคงมีอาการเอียงแต่ว่าสามารถผนึกน้ำได้แล้ว ปริมาณน้ำข้างในตัวเรือมีปริมาณคงที่

ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะดำเนินการช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึง ความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติเพิ่มเติม จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป”

เรือล่มประจวบ

วันนี้ (19 ธันวาคม) จากกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยประสบอุบัติเหตุเรือเอียง 60 องศาจากคลื่นลมแรง

สาเหตุจากเครื่องไฟฟ้าดับ ขณะกำลังลาดตระเวนอยู่รอบๆ แบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ แล้วเครื่องไฟฟ้าดับ เครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานเป็นเหตุให้เรือไม่สามารถที่จะควบคุมเรือได้ รวมทั้งทำให้น้ำเข้าข้างในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมา

ล่าสุด พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 18 ธันวาคม เรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำแล้ว เนื่องจากว่ามีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในส่วนของกำลังพลทั้งหมด ได้รับความปลอดภัย สำหรับความคืบหน้า สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป

สำหรับเรือหลวงสุโขทัย เป็นเรือคอร์เวตของกองทัพเรือ หมายเลข 442 สังกัดหมวดเรือที่ 1 กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ประจำการตอนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2530 สร้างโดยบริษัท ทาโคมา โบ๊ตบิลดิ้ง ที่เมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ในชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ 2 ลำ (ร่วมกับเรือหลวงรัตนโกสินทร์ หมายเลข 441) ได้รับการติดตั้งระบบอาวุโยุทโธปกรณ์ และก็ระบบอำนวยการรบได้ทั้ง 3 มิติ ได้แก่ การป้องกันภัยทางอากาศ สงครามผิวน้ำ แล้วก็สงครามปราบเรือดำน้ำ

คุณสมบัติมีระวางขับน้ำปกติ 866.8 ตัน เต็มกำลัง 958.9 ตัน กว้าง 9.6 เมตร ยาว 76.7 เมตร สูง 26.82 เมตร น้ำลึกหัว 3.81 เมตร ท้าย 3.07 เมตร โดมโซนาร์ 4.5 เมตร ใช้เครื่องจักรใหญ่ดีเซลจำนวน 2 เครื่อง กำลัง 7,268 แรงม้า เครื่องไฟฟ้าจำนวน 4 เครื่อง ความเร็วมัธยัสถ์ 16 นอต สูงสุด 24 นอต ระยะปฏิบัติการสูงสุด 3,568 ไมล์ทะเล ภารกิจหลักคือ การปราบเรือดำน้ำ การลาดตระเวนตรวจการณ์ การคุ้มกันกระบวนเรือ การสนับสนุนการยิงฝั่ง ภารกิจรอง สนับสนุนภารกิจกองทัพเรือ

การช่วยเหลือเหตุเรือล่ม

ทัพเรือ ลำเลียงกำลังพล ที่ลอยคออยู่ในทะเล หลังจาก เรือหลวงสุโขทัย จมลงทะเล โดยกำลังพลชุดแรก 43 คน

ประจวบคีรีขันธ์ – กองทัพเรือ ลำเลียงกำลังพล ที่ลอยคออยู่ในทะเล หลังจากเรือหลวงสุโขทัย จมลง โดยกำลังพลชุดแรก 43 คน เข้าถึงท่าเทียบเรือน้ำลึกบางสะพาน เมื่อเวลา 04.00.น.แล้วก็แยกผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.บางสะพานและก็ศูนย์พักฯ ที่ทางอำเภอบางสะพานมีการเตรียมไว้

เวลา 04.00 น.วันนี้( 19 เดือนธันวาคม) ความคืบหน้าการช่วยเหลือกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย หลังจากจมลงแล้ว โดยกองทัพเรือ จัดส่งเรือหลวงกระบุรี เรือหลวงภูมิพล เรือหลวงอ่างทอง รวมทั้ง ฮ.ซีฮอว์ก เข้าไปช่วยเหลือ เบื้องต้นสามารถช่วยกำลังพลที่ลอยคออยู่ในทะเลขึ้นเรือหลวงสุโขทัยมาได้ 43 คน แล้วก็นำกำลังพลที่ช่วยขึ้นมาได้เดินทางเข้ามาขึ้นที่ท่าเรือน้ำลึก อำเภอบางสะพาน จ.ประจวบฯ โดยมีการเตรียมพร้อม รถพยาบาล แล้วก็รถของมูลนิธิ ในจังหวัดประจวบฯ รวมกว่า 30 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพาน ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเขต4 ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ แพทย์ พยาบาล

โดยมีพลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาค1 มาบัญชาการ รวมถึงนาวาเอกเรืองฤทธิ์ แสงแก้ว รอง.ผอ.ศรชล จังหวัดประจวบฯ นายอำเภอบางสะพาน ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้องทันทีที่เรือหลวงสุโขทัย เข้าเทียบท่าเรือน้ำลึก บางสะพาน เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้าย กำลังพลทั้งหมดลงจากเรือหลวงกระบุรี ขึ้นรถพยาบาลไปที่โรงพยาบาลบางสะพาน แล้วก็ศูนย์พักพิงอุ่นไอรัก บางสะพานที่เตรียม ไว้แล้ว

เบื้องต้นมีคนที่ได้รับบาดเจ็บที่เป็นสีแดง 4 ราย ทั้งขาหัก และเสียเลือดมาก. แล้วก็บาดเจ็บเล็กน้อยสีเหลือง โดยในชุดแรกมีกำลังพลบาดเจ็บรวม 43 ราย นำส่งโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป

Big Mountain ระบบสุดแย่

โผล่อีก ! ผู้ค้าแฉ Big Mountain ระบบสุดแย่ เจ๊งยับขาดทุน 3 แสน ต้องมานั่งหาเงินใช้หนี้

ผู้ค้าอีกรายโผล่แฉคอนเสิร์ต Big Mountain ทีมงานระบบสุดแย่ ห้ามรถน้ำเข้าจนขายของไม่ได้ แถมการันตรี 3,000 เสิร์ฟ ท้ายที่สุดเจ๊งยับขาดทุน 3 แสน จะต้องมานั่งหาเงินใช้หนี้

เรียกว่ากำลังเป็นประเด็นร้อน จากกรณีที่มีผู้ค้าออกมาโวย งานเทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุดแห่งปี บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิก เฟสติวัล 2022 (Big Mountain Music Festival 2022) #BMMF12 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 ธ.ค. 2565 ว่าผู้จัดการันตีให้เตรียมเป็นพันเสิร์ฟ สุดท้ายเจ็งไม่เป็นท่า จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ปัจจุบันนี้

ล่าสุดวันที่ 14 ธ.ค. 2565 มีผู้ค้าอีกคนที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ เตือนคนอื่นให้ตัดสินใจให้ดีก่อนเข้าร่วมเป็นร้านค้างานบิ๊กเม้าท์เท่น โดยบอกว่า จุดเริ่มต้นมาจากการตัดสินใจส่งร้านเข้าไปคัดเลือก เนื่องจากว่าชอบไปงานเทศกาลดนตรีอยู่แล้ว เลยคิดว่าน่าจะลองส่งเข้าไปดู ได้ก็ดี เป็นการต่อยอดธุรกิจแล้วก็โปรโมตร้านค้าไปในตัว คาดหวังผลกำไรนิดหน่อย ขอเพียงแค่ไม่ขาดทุนก็พอใจแล้ว พอถึงวันประกาศผล ทางทีมงานโทร. มาแจ้งว่าได้รับคัดเลือก

บิ๊กเมาน์เท่น 2022

ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าพื้นที่ขายสินค้า

โดยจะมีค่าใช้จ่าย 50,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าร้านค้า 2 วัน ค่ามัดจำอุปกรณ์อีก 5,000 บาท เท่ากับจะต้องจ่าย 55,000 บาท หากไม่มีการเช่าโต๊ะ เก้าอี้ หรือซื้อไฟในบูทงานเพิ่ม ตกใจกับราคาค่าเช่า 2 วันมาก

แต่ว่ามาคำนวณแล้ว ถ้าหากตัดใจคิดซะว่าเป็นค่าการตลาด จบงานแล้วผลกำไรนิดหน่อย หลักพันหลักหมื่น หรือแม้แต่เท่าทุนทางร้านค้าก็พอใจแล้ว ถือว่าไปหาประสบการณ์ออกงานใหญ่ที่สุดในประเทศ

ทีมงานการันตีเสิร์ฟ

ตนเองได้รับบรีฟจากทางทีมงานว่ามีคนเข้าร่วมงาน ประมาณ 100,000 คน มีร้านอาหารทั้งหมด 120 ร้านค้า เฉลี่ยแต่ละร้านค้าแล้วจะได้ประมาณ 3,000 เสิร์ฟต่อวัน ย้ำว่ามีคำว่าการันตี 3,000 เสิร์ฟต่อวัน ไม่ใช่ร้านค้าคิดกันเอาเอง (วันละ 3 มื้อ ไม่รวมวัน Set up งาน วันที่ 9 ที่อนุญาตให้เริ่มขายได้เลย เพราะเหตุว่ามีสตาฟเข้าไปหน้างานราวๆ 10,000 คน)

พอจบประชุมร้านค้า ก็ให้แผนผังร้านค้ามา ซึ่งก็ตรงกับที่บรีฟตอนแรกว่าใกล้กับ Mountain stage รวมทั้ง Contact ของ Suppliers ต่างๆ ทำให้มั่นใจอีกว่างานดี จบจากการประชุม มีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจากคนเข้าร่วมงาน 90,000+ เป็น 110,000+ ไม่รวมทีมงาน, ศิลปิน, บัตรสปอนเซอร์ต่างๆ

ทำให้ทางร้านค้าต้องเตรียมพร้อมยิ่งกว่าเดิม จากที่หวังไว้แค่ร้านค้าเราขอเอาที่ 1,500 เสิร์ฟต่อวันก็พอใจแล้ว เลยเพิ่มเป็น 2,500 เสิร์ฟต่อวันแทน ต้องรีบไล่สั่งของ ซื้อของ เตรียมของไปออกงานให้พร้อมที่สุด ไม่อยากให้งานเสีย ไม่อยากให้เค้าว่าได้ว่าเราไม่พร้อม เพราะว่าเค้าย้ำแล้วย้ำอีกว่าทำได้แน่ใช่มั้ย มีทีมงานทำ 3,000 เสิร์ฟต่อวันได้หรือเปล่า

ตนคิดว่าเตรียมเกินไปดีที่สุด ดีกว่าไปขาดหน้างาน จากที่เตรียมจ้างรถกระบะขนของไปงานไว้คันเดียว ก็ต้องเพิ่มเป็น 2 คัน เพราะไม่สามารถที่จะหารถ 6 ล้อ ได้ทันในเวลากระชั้นชิด สรุปงาน 2 วันลงทุนไป 300,000++ คิดว่าถ้าเกิดมีของเหลือกลับมาบ้างก็เก็บไว้ขายต่อได้ แต่ถึงเวลาขนของกลับจริงมันเยอะกว่าที่คิดไว้หลายเท่าตัว จนต้องไปเช่าห้องเย็นเพื่อฝากแช่ของไว้ต่อ

ดราม่าบิ๊กเมาน์เท่น

ผังร้านค้า Big Mountain ถูกเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

พอใกล้วันงานมีการส่งแผนผังร้านค้ามาใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เข้าไปข้างในลึกเข้าไปใกล้เวทีใหญ่ บอกเหตุผลว่าก่อนหน้านั้นมีฝนตกหนัก ทำให้บางพื้นที่เสียหายใช้ไม่ได้ เลยต้องปรับเปลี่ยน ตรงนี้เข้าใจและมองว่าเหตุผลพอฟังได้ แต่ว่าคิดอีกครั้งก็เอ๊ะว่าแทนที่จะเลื่อนเข้าไปข้างใน เพราะเหตุใดไม่เลื่อนออกมาข้างนอก เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย เจอร้านค้าได้เร็วขึ้น แต่ว่าในตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าเพราะเหตุไรทำอย่างนั้นไม่ได้ ก็เพราะว่ามันจะไปแย่งลูกค้าของสปอนเซอร์

ความวุ่นวายในวันงาน

พอถึงวัน set up งาน (วันที่ 9) ทางร้านสั่งน้ำดื่มประกอบอาหารไป 15 ถัง กะว่าจะได้เริ่มขายคนในพื้นที่งานก่อน สรุปตามน้ำถึงเที่ยงคืน น้ำไม่มาส่ง ต้นเหตุมาจากรถขนส่งของทางโรงงานน้ำดื่มเข้าพื้นที่ไม่ได้ การ์ดไม่ให้เข้า ทำให้หลายๆ ร้านไม่ได้รับของตามที่สั่งไว้ พอถึงวันงาน จากตอนแรกที่ประชุมร้านค้า แจ้งว่าให้นำรถเข้าโหลดของในพื้นที่ได้ช่วงเวลา 06.00-08.00 พอถึงเวลาจริงแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้าพื้นที่แล้ว จะขนของต้องใช้รถเข็นหรือแบกเข้างานเอง

ซึ่งพื้นที่งานเป็นหลุม แอ่งน้ำ ไม่ได้เอื้ออำนวยกับการใช้รถเข็นเลย และไม่อนุญาตให้รถน้ำดื่มกับรถน้ำแข็งเข้าพื้นที่ด้วย น้ำดื่ม 20 ลิตร 1,000 ถัง ทางผู้จัดให้โรงงานน้ำดื่มนำใส่รถเข็นส่งร้านค้าที่อยู่ห่างกันมาก ถึงมากที่สุด รถเข็นใส่ได้รอบละ 10 ถัง เท่ากับจะต้องเข็นรถอย่างน้อย 100 รอบ ไม่นับว่าบางร้านสั่งใส่เติมภาชนะที่นำมาเพิ่มด้วย สรุปคืนวันนั้นรถเข็นโรงงานน้ำดื่มยางแตก งานวันที่ 2 ไม่มีน้ำส่งให้ร้านค้า

ดราม่า BMMF12

ปัญหาร้านเล้งก่อนหน้านี้

บางคนที่ไม่เข้าใจ ต่อว่าร้านเล้งว่าอาหารไม่เหมาะสมกับงาน ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งร้านเล้งก็มีการเปลี่ยนแปลงเมนู เป็นข้าวกะเพรา ไม่ได้มีแต่ต้มเล้งอย่างเดียว แต่ปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่การจัดการกับปัญหาหลังบ้านมากกว่า วัตถุดิบหลักของร้านเล้งคือการใช้น้ำต้มของ น้ำมาส่งไม่ได้ จนต้องขอซื้อน้ำจากร้านค้าอื่นในงาน

ปัญหาอื่นๆ มากมาย

จุดซักล้างน้ำไหลบ้าง ไม่ไหลบ้าง ขยะในงานแจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บ สรุปจนวันสุดท้ายที่เก็บของกลับถุงขยะยังกองอยู่ข้างหลังร้านค้าไม่มีคนมาเก็บไปเลย ไฟดับๆ ติดๆ แถมมีน้ำห้องน้ำไหลมาบ้าง สรุปพอจบงาน หลายๆ ท่านก็พูดคุยกันในไลน์กลุ่ม อาจจะมีใส่อารมณ์ใส่ผู้จัดบ้าง แต่ก็เข้าใจว่าด้วยประสบการณ์แย่ๆ อย่างนี้ เหนื่อยใจเรื่องการจัดการไม่พอ ยังจะต้องเหนื่อยกายแล้วขาดทุนยับเยินอีก มันก็คงมีอารมณ์เป็นธรรมดาถึงถามหาความรับผิดชอบจากทีมงาน เนื่องจากว่าตอนบรีฟแจ้งย้ำแล้วย้ำอีกว่าการันตีวันละ 3,000 เสิร์ฟ

ส่วนตัวคิดว่าจะรอพักเหนื่อยแล้วรอทีมงานชี้แจง สรุปเปิดมาอีกทีทีมงานไล่ลบทุกคนออกจากกลุ่มไลน์ร้านค้า โดยไม่มีการชี้แจงใดๆ ช่วงนี้ต้องกลับสู่โลกความเป็นจริงหาเงินจ่ายและชำระหนี้

เดนมาร์ก ค่าแรงขั้นต่ำ

ประเทศที่ไม่มี “ค่าแรงขั้นต่ำ” แต่แรงงานได้ค่าจ้างสูงกว่าไทย 12 เท่า

ค่าแรงขั้นต่ำ นานาประเทศทั้งโลกล้วนมีกฎหมายกำหนดค่าเหนื่อยขั้นต่ำโดยรัฐ แม้กระนั้นมีหลายประเทศ ที่แรงงานรวมทั้งนายจ้าง หากติกาเรื่องค่าตอบแทนได้อย่างพอดี ด้วยค่าเหนื่อยสูงลำดับที่หนึ่งในโลก รวมทั้งสวัสดิการพร้อม กระทั่งเรียกว่าตอบโจทย์ธุรกิจ รวมทั้งความสำราญของคนเรา แบบ “ผลประโยชน์ต่างตอบแทน”

ไอดา อูเคน ส.ส.พรรคสังคมประชาธิปไตยของเดนมาร์ก รวมทั้งคนเขียนหนังสือ “Dansk” ที่เดี่ยวกับอัตลักษณ์รวมทั้งค่าความเป็นเดนมาร์ก กำหนดในบทความของหนังสือพิมพ์ วอชิงตันโพสต์ เมื่อปี 2021 ว่า ค่าเหนื่อยเฉลี่ยของแรงงานในร้านแมคโดนัลด์ในเดนมาร์กอยู่ที่ 22 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 700 บาทต่อชั่วโมง รวมทั้งทุกคนได้วันลาพักร้อนปีละ 6 อาทิตย์

อูเคน อธิบายว่า ประเทศเดนมาร์กไม่มีค่าแรงขั้นต่ำ แม้กระนั้นใช้ระบบตลาดแรงงานแบบเดนมาร์ก ที่เรียกว่า “เฟล็กเคียวริตี” เนื่องจากคือระบบที่อีกทั้งยืดหยุ่น รวมทั้งมั่นคง สำหรับตัวแรงงานรวมทั้งนายจ้างเอง

ระบบแรงงานของเดนมาร์ก เป็นระบบแบบกระจายอำนาจแบบหนึ่ง ที่การกำหนดค่าเหนื่อยนั้น จะขึ้นอยู่กับการปรึกษาหารือรวมทั้งบรรลุกติกา ระหว่างสหภาพแรงงานรวมทั้งบริษัทนายจ้างเอง

เธอย้ำว่า สหภาพแรงงานของเดนมาร์กเข้มแข็งมาก เนื่องจากอีกทั้งนายจ้างรวมทั้งผู้รับจ้าง “ต่างก็ได้ผลดีต่างตอบแทน”

แล้วถ้าเกิดกติกาแรงงานถูกละเมิด คนงานก็มีสิทธิประท้วง ในทางตรงกันข้าม นายจ้างก็มีสิทธิไม่ให้ผู้รับจ้างทำงานได้ด้วยเหมือนกัน ส่วนรัฐนั้น จะเข้าแทรกแซงก็ต่อเมื่อการสนทนาระหว่างนายจ้างรวมทั้งผู้รับจ้าง ไม่ลงตัว ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

แรงงานชาวเดนมาร์กได้ประโยชน์จาก “เฟล็กเคียวริตี” เนื่องจากจะได้การปกป้องทางด้านสังคม รวมทั้งประกันสุขภาพถ้วนหน้า วันลาพักร้อนยาวนานหลายสัปดาห์ต่อปี สิทธิลาคลอด รวมทั้งแผนบำเหน็จเงินบำนาญในวัยเกษียณอายุ ที่สำคัญ ค่าเหนื่อยก็จัดว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง

อูเคน อธิบายต่อว่า แล้วถ้าเกิดแรงงานจ่ายเงินเข้ากองทุนรับรองการไม่มีงานทำ พวกเขาจะได้รับผลดีนานสูงสุด 2 ปี ถ้าเกิดตกงาน โดยเมื่อตกงานแล้ว รัฐบาลจะเข้ามาให้การดูแล อาทิเช่น จัดแจงฝึกหัดทักษะ รวมทั้งให้คำแนะนำเพื่อให้แรงงานกลับเข้าตลาดแรงงานให้เร็วที่สุด

ส่วนนายจ้างนั้น สามารถปลดพนักงานออกได้ง่าย เนื่องจากค่าสินไหมทดแทนการเลิกว่าจ้าง รวมทั้งการบอกเลิกจ้างล่วงหน้านั้น ไม่ได้เข้มงวดนัก ซึ่งเมื่อพนักงานถูกเลิกจ้าง รัฐบาลก็จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือต่อไป ส่วนทางบริษัทก็ว่าจ้างแรงงานใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ตอบโจทย์ทางธุรกิจขณะนั้น

ค่าแรงขั้นต่ำ คุณภาพชีวิตดี

แล้วจะกำหนดค่าแรงอย่างไร หากรัฐไม่ประกัน ค่าแรงขั้นต่ำ

ข้อมูลของ Minimum-Wage.org ระบุว่า ในเมื่อเดนมาร์กไม่มีการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ การกำหนดค่าแรงจึงเป็นข้อตกลงระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง หรือที่เรียกว่า Collective Bargaining หรือ การร่วมเจรจาต่อรอง ซึ่งใช้ในสวีเดนด้วย โดยมีวิธีการดังนี้

  • ผู้แทนของฝ่ายนายจ้างและแรงงาน (อาจเป็นสหภาพ) ร่วมหารือกัน
  • ทั้งสองฝ่ายร่วมกันกำหนดว่า ค่าแรง สวัสดิการ และสภาพแวดล้อมการทำงาน ของลูกจ้างควรเป็นอย่างไร
  • ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง มีหลายระดับ คือ ระดับประเทศ ระดับอุตสาหกรรม และระดับท้องถิ่น โดยแรงงานในภาคส่วนต่าง ๆ จะมีฐานค่าแรงที่แตกต่างกัน แต่ร่วมกันกำหนดโดยสหภาพแรงงานที่หลากหลาย

อูเคน ยกตัวอย่างว่า พนักงานร้านแมคโดนัลด์ในเดนมาร์ก จะได้ค่าเหนื่อยชั่วโมงละ 700 บาทต่อชั่วโมง หรือคิดเป็น 2 เท่าของพนักงานแมคโดนัลด์ในสหราชอาณาจักร แม้ว่าราคาของแฮมเบอร์เกอร์แทบจะเท่ากันในสองประเทศนี้ก็ตาม

โดยเหตุนี้ ถ้าเกิดเทียบกับไทยแล้ว พนักงานร้านแมคโดนัลด์ไทยได้ค่าเหนื่อยราว 55-62 บาทต่อชั่วโมง ดำเนินการหนึ่งวัน 8 ชั่วโมง จะซื้อบิ๊กแมคได้ 3 ชิ้น แม้กระนั้นหากเป็นพนักงานร้านแมคฯ ในเดนมาร์ก จะได้ค่าเหนื่อย 700 บาทต่อชั่วโมง ดำเนินการหนึ่งวันสามารถซื้อบิ๊กแมคได้ 35 ชิ้น (บิ๊กแมคในเดนมาร์ก ขาย 157 บาทต่อชิ้น ไทยขาย 139 บาท)

ส่วนค่าเฉลี่ย (ไม่ใช่ค่าเหนื่อยขั้นต่ำ) ของค่าเหนื่อยที่ชาวเดนมาร์กจะได้ต่อหัวประชากร อยู่ที่ 110 โครนาร์ หรือ 540 บาทต่อชั่วโมง รวมทั้งเฉลี่ยต่อปี ชาวเดนมาร์กมีรายได้กว่า 1.5 ล้านบาท อ้างอิงจากเว็บไซต์ Minimum-Wage.org

เดนมาร์ก ค่าแรงขั้นต่ำ

ประเทศไหนบ้างที่ไม่มีค่าแรงขั้นต่ำ

เว็บไซต์ โนแมด แคปิตอลลิสต์ ระบุว่า ประเทศต่าง ๆ 90% ทั่วโลก ล้วนมีกฎหมายกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ ไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง แต่บางประเทศใน 10% ที่เหลือ กลับพบวิธีที่ดีว่าการที่รัฐต้องมารับประกันค่าแรง

ข้อมูลจาก อิสเวสโตพีเดีย และ โนแมด แคปิตอลลิสต์ ระบุว่า ประเทศพัฒนาแล้วที่ไม่มีการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำโดยรัฐบาล มีอยู่ 6 ประเทศด้วยกัน คือ สวีเดน เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยแต่ละประเทศ กำหนดค่าแรงให้แรงงาน ด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • สวีเดน – เป็นประเทศต้นแบบในการยกเลิกการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ หันมาใช้ “โมเดลนอร์ดิก” (Nordic Model) ที่กำหนดค่าแรงให้พนักงานผ่าน “การร่วมเจรจาต่อรอง” โดยสวีเดน มีสหภาพแรงงานกว่า 110 แห่ง ที่จะไปเจรจาต่อรองกับผู้แทนองค์กร ถึงค่าแรงที่สมาชิกในสหภาพควรจะได้ต่อชั่วโมง รวมถึงค่าล่วงเวลาด้วย บนพื้นฐานทางกฎหมายว่า พนักงงานต้องทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีวันลาพักร้อน 25 วัน และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 13 วันต่อปี
  • เดนมาร์ก – ลักษณะเดียวกับสวีเดน และตามที่กล่าวไว้ข้างต้นในบทความ
  • ไอซ์แลนด์ – เมื่อมีสถานะเป็นพนักงาน ทุกคนจะถูกบรรจุเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานในทันที โดยสหภาพแรงงานเหล่านี้ จะเจรจาตกลงค่าแรงที่พนักงานควรได้กับผู้แทนองค์กรเอง
  • นอร์เวย์ – ใช้หลักการเจรจาต่อรองร่วมเหมือนเดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ ด้วยค่าแรงที่อยู่ในระดับสูง ยกตัวอย่าง แรงงานทักษะต่ำ อาทิ ภาคการเกษตร ก่อสร้าง และทำความสะอาด จะมีรายได้ขั้นต่ำ 556-730 บาทต่อชั่วโมง
  • สวิตเซอร์แลนด์ – ให้มีผู้มีสิทธิลงคะแนนเป็นผู้ลงคะแนนกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ โดยเมื่อปี 2020 ประชามติกำหนดค่าแรงขั้นต่ำที่ 855 บาทต่อชั่วโมง ในทุกอุตสาหกรรม
  • สิงคโปร์ – มีตลาดแรงงานที่ปราศจากการแทรกแซงโดยรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง โดยผู้แทนแรงงานและนายจ้าง กำหนดค่าตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อ อ้างอิงตามประสบการณ์ ทักษะ การศึกษา และความสามารถ
    การเลื่อนชั้นทางสังคม

อูเคน ระบุว่า ในเดนมาร์กนั้น แทบไม่มีพนักงานประจำคนใดที่มีฐานะยากจนเลย และแม้จะเป็นแรงงานทักษะต่ำ หรือผู้ใช้แรงงาน ก็แทบไม่ต้องทำงานหลายเพื่อให้มีรายได้พอสำหรับการดำรงชีพ และเลี้ยงครอบครัวเลย

“เราเป็นประเทศร่ำรวย ที่มีอัตราจ้างงานสูง… แม้ในช่วงโควิด ประชากรวัยทำงาน 74% ต่างมีงานทำ” อูเคน อ้างอิงข้อมูลจากองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี พร้อมเสริมว่า เดนมาร์กฟื้นเศรษฐกิจจากโควิดได้เร็วขึ้น ก็เพราะ “ระบบเฟล็กเคียวริตี” ด้วย จากการลดขนาดธุรกิจและขยายขนาดธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

หน่วยงานวิจัยความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจ้างแรงงาน มหาวิทยาลัยแห่งโคเปนเฮเกน กล่าวว่า ชาวเดนมาร์กโดยมาก ล้วนยินดีกับระบบแรงงานอย่างนี้ ไม่เพียงเพราะตอบโจทย์ทางธุรกิจ แม้กระนั้นเพราะเป็นการสร้างสังคมที่เห็นศักดิ์ศรีของพลเมืองทุกคน

ไม่เพียงเท่านั้น ระบบ “เฟล็กเคียวริตี” ยังส่งผลให้การเลื่อนชั้นทางด้านสังคมเป็นไปได้โดยง่าย โดยยิ่งไปกว่านั้นการเลื่อนชั้นจากชนชั้นแรงงานมาเป็นชนชั้นกลาง ประชาชนตั้งแต่วัยเด็ก เติบโตในสังคมที่มีความหลากหลายทางชนชั้นแบบไม่แบ่งแยก

“ลูกหลานของเราเติบโตพร้อมรู้จักเด็ก ๆ ในสถานการณ์เศรษฐกิจ การศึกษา และพื้นเพที่แตกต่างกัน ทำให้ความแตกแยกทางการเมืองแบบแบ่งขั้น มีไม่มาก เหมือนที่เห็นในชาติประชาธิปไตยอื่น ๆ” อูเคน กล่าวกับวอชิงตันโพสต์

ขอขอบคุณบทความจากสำนักข่าว BBC

ร้านหมูกระทะ เมนูหมึกกรอบ

นึกถึงผู้บริโภค ร้านหมูกระทะ เลิกขาย “เมนูหมึกกรอบ” หลังตรวจพบสารฟอร์มาลิน

โซเชียลสรรเสริญ ร้านหมูกระทะ อ.หาดใหญ่ ประกาศยกเลิก “เมนูหมึกกรอบ” ถาวร หลังสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจเจอฟอร์มาลิน เผยตามหาหมึกกรอบที่ไม่มีฟอร์มาลิน หากใครเปิดขายแจ้งร้านได้เลย

วันที่ 8 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า กลายเป็นประเด็นที่ถูกแชร์ในโลกอินเตอร์เน็ต แฟนเพจเฟซบุ๊ก ริมรั้วกระทะร้อน259ทะเลเผา459 Rimruakataron259 Seafood459 ได้โพสต์เนื้อความกล่าวว่า ริมรั้วเรามีข่าวมาแจ้ง สำนักงานสาธารณสุข มาตรวจสารฟอร์มาลินในเนื้อสัตว์แล้ว ผลที่ตามมา น้องหมึกกรอบเราไม่รอดนะคะ เขาบอกว่าแนวทางในการผลิตอาจจะต้องใช้มัน ผู้ผลิตหมึกกรอบที่ไม่ใช้แจ้งหน่อยนะคะเผื่อจะได้อุดหนุนกัน ทางร้านขอเลิกใช้หมึกกรอบ หาร้านที่ไม่ใส่ยากมาก พี่บอกว่าหาร้านที่รอดยาก ขอบคุณสำนักงานสาธารณสุขมากนะคะ จะได้รู้ดีว่าตัวไหนที่ใช้ไม่ได้บ้าง อวสานหมึกกรอบเนื่องจากว่าหาร้านที่ไม่ใส่สารยากมาก

หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างเข้ามาให้ความเห็นและสรรเสริญร้านเป็นจำนวนมากที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และซื่อสัตย์ต่อลูกค้า

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปร้านริมรั้วบุฟเฟต์ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ ถนนเลียบคลอง ร.5 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยร้านยังเปิดให้บริการตามปกติ และมีลูกค้ามาใช้บริการสม่ำเสมอ ซึ่งตรวจสอบแล้วก็พบว่าร้านได้ยกเลิก เมนูหมึกกรอบ ไปแล้ว แต่เมนูอื่นๆยังมีอย่างเดิม

นายไกร สลีมีน อายุ 48 ปี ผู้ครอบครองร้านเผยว่า จะต้องขอบคุณทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่มาตรวจตัวอย่างเนื้อสัตว์ที่ขายในร้าน และเจอสารฟอร์มาลินในหมึกกรอบ ซึ่งเป็นเลิศในเมนูของร้าน ทางร้านจึงยกเลิกหมึกกรอบทันที ไม่ขายอีกต่อไป หาร้านที่ขายหมึกกรอบและไม่ใส่สารฟอร์มาลินยากมาก เนื่องจากว่าจะต้องคิดถึงความสะอาด และความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับแรก

สอบถามลูกค้าท่านหนึ่งที่มาใช้บริการที่ร้านนี้ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทางร้านที่รับผิดชอบต่อสังคม ยกเลิกหมึกกรอบที่พบสารฟอร์มาลิน ก่อนหน้านี้ก็เคยกิน แต่ได้เลิกกินไปแล้ว หันมากินอย่างอื่นแทน และยังคงมาใช้บริการที่ร้านนี้เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม สำหรับสารฟอร์มาลิน หรือน้ำยาดองศพ เป็นสารที่ห้ามใช้ในของกิน หากบริโภคอาหารจำพวกที่เป็นเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเลที่แช่สารฟอร์มาลินสูงกว่า 0.1 PPM จะมีผลให้เกิดอาการระคายเคืองต่อตา จมูก และ ทางเดินหายใจ หรือถ้าเกิดได้รับจำนวนเข้มข้นสูงเกิน 100 PPM อาจจะส่งผลให้หมดสติและเลือดจะกลายเป็นกรด ทำให้เกิดภาวะช็อก ความดันตก และถึงกับตายได้.

สไบนาง-หมึกกรอบ แช่ฟอร์มาลิน เจออีกใน ร้านหมูกระทะ ชัยภูมิ

หลังตรวจพบสารฟอร์มาลิน

8 เดือนธันวาคม65 – สสจ.ชัยภูมิ เจออีกหมึกกรอบ-สไบนาง ร้านหมูกระทะ แช่ฟอร์มาลิน ลุยตรวจทั่วจังหวัด เตือนนักกินดูวัตถุดิบก่อนรับประทาน

นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ นำอุปกรณ์ออกเก็บตัวอย่างจากอาหารสดจากร้านเนื้อย่างเกาหลีทั่วทั้ง จังหวัดที่มีโอกาสใส่สารฟอร์มาลิน จากการสุ่มของกินที่ขายใจร้านเนื้อย่างเกาหลี หมูกระทะ จำนวน 10 ตัวอย่าง พบว่า ในหมึกกรอบและสไบนาง มีสารฟอร์มัลดีไฮด์ ปนเปื้อนจำนวนมาก ซึ่งจะต้องส่งไปทำการตรวจห้องปฏิบัติการที่ศูนย์วิทย์ฯ ยืนยันอีกรอบ แต่ยังไม่เจอสารฟอร์มัลดีไฮด์ ในเนื้อหมู

นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ กล่าวอีกว่า สารสารฟอร์มัลดีไฮด์ อนุญาตใช้ในทางอุตสาหกรรมและการแพทย์เพียงแค่นั้น ห้ามใส่ของกินเพื่อรักษาสภาพอาหาร ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่151 พ.ศ.2536 ที่ พระราชบัญญัติของกิน พ.ศ.2522 กำหนดให้สารละลายฟอร์มัลดีไฮด์ หรือฟอร์มาลิน เป็นวัตถุห้ามใช้ในของกินหากตรวจเจอจัดว่าผลิตจำหน่ายของกินไม่บริสุทธิ์ จะต้องถูกดำเนินตามกฎหมาย มีโทษติดตะรางไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ประกอบการต้องระวังในการเลือกวัตถุดิบ

ตั้งแต่วันที่ 5-7 ธ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชัยูมิได้สั่งการให้จนท.สสจ.ลงพื้นที่นำโดยทีมหน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัยด้าน สุ่มตรวจวัตถุเจือปนในของกินที่ร้านหมูกระทะทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิเป็นการด่วน นอกจากนั้น สสจ.ชัยภูมิ ยังสั่งการสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอเร่งออกเก็บตัวอย่างอาหารสดที่มีโอกาสใส่สารฟอร์มาลิน อำเภอละ 10 ตัวอย่าง ส่ง ตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของประชากร

“หากกินอาหารที่ปนเปื้อนฟอร์มาลีนที่จะเกิดพิษต่อระบบทางเดินอาหาร ปากและคอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสียปวดท้องรุนแรง กระเพาะอาหารอักเสบเป็นแผล ปวดศีรษะรุนแรง หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก หากสูดดมจะมีฤทธิ์ทำลายระบบทางเดินหายใจ หลอดลมบวม แสบจมูก เจ็บคอ ไอ หายใจไม่ออก ปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด ถึงขั้นเสียชีวิต”

หากสัมผัสโดยตรงทำให้ผิวหนังระคายเคือง เกิดผื่นคัน ผื่นแดงเหมือนลมพิษ ผิวหนังไหม้ หากสัมผัสดวงตาจะระคายเคืองมากทำให้เป็นแผลได้” โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อค้า แม่ค้า ที่จำหน่ายของกินแช่ฟอร์มาลิน ได้โอกาสดมกลิ่นไอระเหยฟอร์มาลินจากน้ำแช่ตลอดเวลา

ประชาชนที่นิยมกินอาหารนอกบ้าน ก่อนรับประทานเนื้อหมู เนื้อวัว หรืออาหารทะเลทุกคราว ควรสังเกตว่าลักษณะเนื้อนั้นสดผิดปกติหรือไม่ ถ้าเกิดมีกลิ่นแรงๆแปลกๆแสบจมูก ก็ไม่ควรบริโภค แต่หากไม่มั่นใจในร้านของกินที่ไม่ได้มาตรฐาน ควรที่จะเลือกปรุงประกอบอาหารเอง โดยเลือกซื้อวัตถุดิบประกอบอาหาร จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เป็นต้นว่า ตลาดสดน่าซื้อของกรมอนามัย และให้เลือกกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆหลีกเลี่ยงการกินดิบ หรือดิบๆสุกๆ

เมนูหมึกกรอบ

ชัยภูมิลุยตรวจหมูกระทะ ตรวจ 8 ร้าน เจอ 5 ร้าน “ปลาหมึกกรอบ ผ้าขี้ริ้ว แมงกระพรุน” แช่ฟอร์มาลิน

ชัยภูมิลุยตรวจร้านหมูกระทะ เนื้อย่างเกาหลี “ปลาหมึกกรอบ ผ้าขี้ริ้ว แมงกระพรุน” ปนเปื้อนฟอร์มาลิน ตรวจ 8 ร้าน เจอ 5 ร้าน สสจ.เตือนปีใหม่ ซื้อเนื้อสัตว์ไปทำเมนูปิ้งย่างต้องระวัง อย่าเห็นแก่ของถูก

หมูกระทะแช่ฟอร์มาลืน วันนี้ (8ธ.ค.65) นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้ส่งเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ชัยภูมิ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านหมูกระทะ ร้านเนื้อย่างเกาหลี เพื่อสุ่มตรวจอาหาร หลังพบโรงงานผลิต แปรรูปเนื้อสัตว์ และเครื่องในสัตว์ ในจังหวัดชลบุรี ใช้สารฟอร์มัลดีไฮด์ หรือฟอร์มาลิน แช่เครื่องในส่งขายร้านหมูกระทะ

ผลการสุ่มตรวจสารปนเปื้อนในอาหาร ที่ร้านหมูกระทะทั่วจังหวัดชัยภูมิ ร้านปิ้งย่างหมูกระทะ เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ จำนวน 8 ร้าน พบสารฟอร์มาลิน 5 ร้าน ส่วนใหญ่พบในสามสิบกลีบ (ผ้าขี้ริ้ว) ปลากหมึกกรอบ ปลาหมึกวง และแมงกระพรุน จากนี้จะส่งผลตรวจห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันอีกครั้ง ส่วนเนื้อหมูไม่พบสารฟอร์มาลีน

ลุงฆ่าแมว

ลุงฆ่าแมว เพื่อนบ้าน เข้ารับทราบ 2 ข้อหา บอกนักข่าว ใครอยากสัมภาษณ์ ประมูลราคามา

ชายอายุ 68 ปี ผู้ก่อเหตุในคลิปทุบตีแมวกระทั่งเสียชีวิต ลุงฆ่าแมว ภายในชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. เดินทางเข้าพบพนักงานที่มีหน้าที่สอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา 1.ทำให้เสียทรัพย์ และ 2.ทารุณกรรมสัตว์ โดยเจ้าของแมวเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 50,000 ค่า และแมว 3,000 รวม 53,000 บาท

ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณหน้า สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนจะเดินเข้าพบพนักงานที่มีหน้าที่สอบสวนซึ่งระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามไต่ถามลุงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ลุงตอบเพียงสั้นๆว่าไม่กลุ้มใจที่ถูกตำรวจเรียกมาวันนี้ คิดว่าตัวเองเป็นคนดังที่มีผู้สื่อข่าวมาติดตามทำข่าวจำนวนมาก พร้อมกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ

ต่อมาตอนหลังการไต่สวนและรับรู้ข้อกล่าวหานานกว่า 1 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาพร้อมนำหนังสือพิมพ์ขึ้นมาบังหน้า และบอกไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ หากใครจะสัมภาษณ์ให้ประมูลราคาค่าตอบแทนสำหรับในการสัมภาษณ์มา ก็เลยจะยินยอมให้ข่าว

ผู้สื่อข่าวพยายามถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจับใจความได้ว่า รู้สึกเฉยๆกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอไปต่อสู้คดีก่อน ส่วนหัวข้อการชดเชยค่าเสียหาย ลุงไม่ยอมรับที่จะตอบ จนกระทั่งก่อนขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า แมวมาเข้าฝันบ้างหรือเปล่า ลุงเทียนพูดว่า อยากได้ลาภอยู่นะ

ทางด้าน ร้อยตำรวจเอกเนติ แก้วจงประสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวมาว่า วันนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าสอบปากคำ รับรู้ข้อกล่าวหาจำนวน 2 ข้อกล่าวหาเป็น ทารุณกรรมสัตว์ โทษจำคุก 2 ปีปรับไม่เกิน 4 หมื่น และทำให้เสียทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่น พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนจะปล่อยตัวผู้ต้องหากลับไป เพราะว่าผู้ต้องหาเดินทางเข้ารับรู้ข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง

โดยในวันที่ 14 ธันวาคมได้มีการนัดหมายกับผู้ต้องหาเพื่อส่งฟ้องที่ศาลแขวงดอนเมือง เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง กับอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน แมวมาบุกรุกที่บ้าน ตัวเองมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น

ลุงเทียน

ลุงฆ่าแมว โชว์ภูมิกฎหมายสวน “หนุ่ม กรรชัย” ลั่น “ผมมีสิทธิฆ่ามันบุกรุก”

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง มีการแชร์คลิปวิดีโอซึ่งเป็นภาพเรื่องราวชายสูงอายุหิ้วหางแมวซึ่งอยู่ในสภาพไม่ไหวติง พร้อมตะคอกเพื่อนบ้านว่า “เออ ฆ่าได้ซิ เข้ามาทำไมบ้านกู กูไม่ชอบแมว” ก่อนจับแมวฟาดลงกับพื้นถึง 2 ครั้ง พร้อมตะโกนว่า “ตายตัวที่ 2 นะ รู้ไว้ซะด้วย” ก่อนมีการโต้แย้งกับเพื่อนบ้านซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าของแมว กระทั่งบนโลกสังคมออนไลน์ต่างวิจารณ์กันไปต่างๆนานา

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมทางรายการโหนกระแสที่มีหนุ่ม กรรชัย ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ได้เชิญชวนลุงเทียน ฆ่าแมวเพื่อนบ้าน และ เจ้าของแมว มาออกรายการ โดยตลอดรายการ ลุงเทียนยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด แมวเข้าบ้านมาทำให้ลุงลำบากรำคาญ เจ้าของบ้านไม่ถูกที่ไม่สนใจ ที่ลุงฟาดแมวลงไปกับพื้นเพราะจับแมวไล่ออกจากบ้านแล้วแมวแว้งมาข่วน ทำให้ลุงจำเป็นต้องฟาดให้แมวสงบ แม่แมวมันใจเสาะเอง ลุงยืนยันว่าไม่สำนึกผิด ไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งสิ้น ตนเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเจ้าของทรัพย์ แมวมันเข้าบ้านตนจะทำอะไรก็ได้ แมวมันสู้ ตนป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย

ลุงเทียนยังยืนยันไม่จ่ายแน่นอน กรณีที่เจ้าของแมวเรียกค่าเสียหายมา 53,000 บาท  ไม่มีให้สักสลึงเดียว แล้วยังกล่าวหาว่า ผู้เสียหายหากินกับแมว ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าแมวราคา 5-6 หมื่นบาท หรือจริงๆ แล้วเขาเลี้ยงแมวไว้ เพื่อปล่อยออกไปเข้าบ้านคนอื่น ให้คนอื่นฆ่าตาย จะได้มาเรียกเอาเงินทีหลัง แล้วยังบอกอีกว่า “มึงรวยนัก มึงก็จ่ายเอง ก็ซื้อใหม่เอง”

ในขณะที่กำลังดำเนินรายการโหนกระแส เพื่อหาทางออกด้วยกันในหัวข้อลุงฟาดแมวกับพื้นจนตายนั้น ทางลุงผู้ก่อเหตุก็ได้มีการไต่ถามถึงค่าเสียหายที่เรียกมา 5 หมื่นกว่าบาท ซึ่งทางเจ้าของก็ได้ชี้แจงว่า ตนซื้อแมวมาในราคา 3,000 บาท แต่ที่เรียกมากมายด้วยเหตุว่าในช่วงที่เลี้ยงแมวนั้นมีค่าใช้จ่ายมากมายเหมือนกันรวมถึงเป็นค่าเสียหายของผู้เลี้ยงอีกด้วย

หนุ่ม กรรชัย

ทั้งนี้ลุงเทียนบอกว่า  เรียกค่าเสียหายเกินจริง แถมต่อว่า “ตอแหล” กลางรายการ ถ้ารวยมากก็แค่ซื้อใหม่ แบบนี้เหมือนซื้อแมวมาเก็งกำไรให้คนอื่นทำร้ายแล้วมาเรียกค่าเสียหายเกินจริง

ลุงโหดรับทราบข้อหาฆ่าแมว ไม่รู้สึกผิด! ลั่นมีสิทธิเหตุมาบุกรุกที่บ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลูกสาวของเจ้าของแมว ถึงกับหลั่งน้ำตากลางรายการ ส่วนผู้เป็นแม่ถึงกับพูดว่า ถ้าคนทั้งโลกคิดแบบลุง โลกนี้ก็คงอยู่กันไม่ได้แล้ว

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่ชายสูงวัย หิ้วหางแมวอยู่ในสภาพแน่นิ่ง พร้อมตะคอกเพื่อนบ้านว่า “เออฆ่าได้สิ เข้ามาทำไม บ้านกู กูเกลียดแมว” ก่อนจับแมวฟาดลงกับพื้นถึง 2 ครั้ง พร้อมตะโกนว่า “ตายตัวที่ 2 แล้วนะ รู้ไว้ซะด้วย” ก่อนมีการโต้เถียงกับเพื่อนบ้านที่แสดงตัวเป็นเจ้าของแมว โดยคลิปนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับคนที่รักแมวจนมีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับชายในคลิปนั้น

วันที่ 6 ธันวาคม 2565 รายการ โหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้มีการเชิญเจ้าของแมว และลุงในคลิปทำร้ายแมว มาพูดคุยกันในรายการ ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่ลุงเล่าเหตุการณ์ตอนลงมือที่ทำเอาชาวโซเชียลรับไม่ได้ หนุ่ม กรรชัย เองก็ถึงกับอึ้ง

ลุงเทียน : มันไม่ได้เข้าไปข่วน แต่มันอยู่ใต้ท้องรถ ผมก็ดึงหางมันออกมาจากใต้ท้องรถ แล้วมันก็ทำท่าจะข่วน ผมก็ต้องหวดกับพื้น เพื่อให้มันนิ่ง ๆ แล้วก็เอาไปฟาดกับเสาครั้งที่ 2 เพราะฟาดครั้งแรกมันไม่นิ่งไง
หนุ่ม กรรชัย : ลุงเอาไปฟาดกับเสาครั้งที่ 2 ลุงไม่รู้เหรอว่ามันจะตาย
ลุงเทียน : ถ้าผมปล่อยมันแล้วมันสวนกลับมาทำไง เราก็กลัวว่ามันจะย้อนกลับมาหาเรา
หนุ่ม กรรชัย : ลุงรู้สึกลุงผิดมั้ย
ลุงเทียน : ไม่ผิด เพราะผมไม่เลี้ยงแมว
หนุ่ม กรรชัย : ลุงรู้สึกลุงผิดมั้ยตอนนี้
ลุงเทียน : ไม่รู้สึกผิด เราไม่มีบุญคุณเวรกรรมต่อกัน
หนุ่ม กรรชัย : เข้าใจ ลุงฟังผมนะ ลุงสงสารแมวมั้ยมันตายไปแล้ว ทำไมไม่เอาไม้ไล่มันไป
ลุงเทียน : มันใจเสาะไปหน่อย

คิม จอง อึน ลูกสาว ประเทศเกาหลีเหนือ

คิม จอง อึน การเปิดตัวลูกสาวผู้นำเกาหลีเหนือมีความหมายอย่างไร

คิม จอง อึน ลูกผู้หญิงของนายคิม จอง-อึน ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 สัปดาห์ ทำให้ยิ่งเกิดกระแสคาดคะเนว่าเธออาจถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจดูแลประเทศคนถัดไป

แม้กระนั้น สื่อของทางการประเทศเกาหลีเหนือไม่ยอมเปิดเผยชื่อหรืออายุของเด็กสาวคนนี้ กำหนดเพียงว่าเธอคือบุตรสาวที่หัวหน้าสูงสุดของประเทศเกาหลีเหนือ “รักมากที่สุด” หรือ “ลูกคนโปรด”

สำนักข่าว เคซีเอ็นเอ ของ ทางการ ประเทศเกาหลีเหนือ รายงาน เมื่อ 27 พฤศจิกายนว่า นาย คิมรวมทั้งลูกผู้หญิงได้พบปะ กับ เหล่า ทหาร นักวิทยาศาสตร์ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องสำหรับการทดสอบยิงขีปนาวุธ ฮวาซอง-17 ที่ มี ขึ้น ใน เดือน นี้

เคซีเอ็นเอ เผยแพร่รูปปัจจุบันที่ ไม่ ได้ ระบุ วัน ที่ โดย นำเสนอว่า นายคิมรวมทั้งลูกผู้หญิงได้พบปะกับประชาชนเยอะมากๆที่ “เปี่ยมไปด้วยความรักรวมทั้งความสบาย” ซึ่งได้แสดง “ความรู้สึกยินดีรวมทั้งเคารพนับถือยกย่องอย่างสูงสุดต่อเขา”

แล้วพวกเรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับบุตรสาวคนนี้ของนายคิม จอง-อึน

คิม จอง อึน ลูกสาว เผด็จการ เกาหลีเหนือ

คิม จอง อึน ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในปี 2013

นายคิม จอง-อึน คือหัวหน้า ของ หนึ่ง ใน ประเทศ ที่ เต็ม ไป ด้วย ความลับ มาก ที่ สุด ใน โลก รวมทั้งมีคนรู้เรื่องราว ส่วนตัว ของ เขา น้อย มาก

ในเดือน ก.ค. 2012 ประเทศเกาหลีเหนือรับรองว่านางรี ซอล จู เป็นภริยาของนายคิม หลังจากทั้งคู่ออกงานร่วมกันเป็นครั้งแรกเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาหน้านั้น

นับตั้งแต่นั้นสื่อประเทศเกาหลีใต้ได้คาดหมายว่าทั้งคู่มีลูกร่วมกัน 3 คน

ในเดือน ก.ย. 2013 เดนนิส ร็อดแมน ผู้เล่นบาสเกตบอลเก็ตบอลคนมีชื่อเสียงคนอเมริกันซึ่งเป็นเพื่อนของนายคิมเผลอให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ของอังกฤษว่า “นายคิมมีลูกสาววัยทารก”

“ผมอุ้มหนูน้อย จู-เอ รวมทั้งพูดคุยกับ ภรรยานายคิม ด้วย เขาเป็นพ่อที่ดีรวมทั้งมีครอบครัวที่สวย” ร็อดแมนกล่าว

แต่ขณะนั้นทางการประเทศเกาหลีเหนือไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นหรือรับรองคำพูดของอดีตผู้เล่นบาสเกตบอลเก็ตบอลชื่อดังรายนี้

ปรากฏตัวครั้ง แรกในปี 2022

ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2022 สำนักข่าวเคซีเอ็นเอได้เผยแพร่รูปหลายภาพของนายคิมกับบุตรสาวเป็นครั้งแรก ถือได้ว่าเป็นการรับรองข่าวลือที่มีมายาวนานเกี่ยวกับเธอ

เคซีเอ็นเอรายงานว่าทั้งสองได้พูดคุยกับบรรดาเจ้าหน้าที่ ตรวจตราขีปนาวุธ รวมทั้งร่วมชมการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป

แม้กระนั้น ไม่มีการเปิดเผยชื่อหรืออายุของเด็กสาว

จีน แมคเคนซี ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงโซล กล่าวว่า “การเปิดตัวบุตรสาวของคิม จอง-อึน เรียกความพอใจจากบรรดานักวิเคราะห์เรื่องประเทศเกาหลีเหนือมากยิ่งกว่าการบรรลุเป้าหมายสำหรับการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปทีทรงพลังที่สุดของประเทศเกาหลีเหนือ”

“นี่แปลว่าเธอได้รับเลือกให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากคิม จอง-อึน รวมทั้งจะดูแลประเทศเกาหลีเหนือวันหนึ่งไหม”

ปรากฏตัวครั้งที่สองในปี 2022

หลังการเผยแพร่ภาพถ่ายชุดแรกได้เพียง 1 สัปดาห์ เคซีเอ็นเอก็ปล่อยภาพของพ่อลูกคู่นี้ออกมาอีกชุดเมื่อ 27 พฤศจิกายน

รวมทั้งเป็นอีกรอบที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามหรืออายุของเธอ แต่มีการกล่าวว่า เธอคือบุตรสาวที่หัวหน้าสูงสุดของประเทศเกาหลีเหนือ “รักมากที่สุด” หรือ “ลูกคนโปรด”

อังกิต ปันดา ผู้ชำนาญเรื่องประเทศเกาหลีเหนือจากสถาบันสนับสนุนสันติภาพระหว่างประเทศ Carnegie Endowment for International Peace ให้สัมภาษณ์กับช่องข่าวโครงข่ายทีวีเอ็นบีซีในสหรัฐฯ ว่า “นี่เป็นเรื่องน่าดึงดูดมาก รูปของคิม จู-เอ ยืนเคียงข้างพ่อท่ามกลางการฉลองของช่างเทคนิครวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ที่มีส่วนร่วมสำหรับการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป น่าจะสนับสนุนความนึกคิดที่ว่านี่คือจุดเริ่มของการที่เธอถูกวางตัวเป็นผู้สืบทอดอำนาจ”

แม้กระนั้น นักวิเคราะห์บางบุคคลคิดว่านี่อาจเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าเธอคือผู้ถูกเลือกให้เป็นทายาททางการเมืองของนายคิมไหม

ชุน ซู-จิน ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับผู้นำหญิงของประเทศเกาหลีเหนือให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ถึงหัวข้อนี้เอาไว้ว่า จังหวะที่ชนชั้นนำของประเทศเกาหลีเหนือจะให้การเห็นด้วยลูกผู้หญิงนายคิมเป็นผู้นำประเทศนั้นเกือบไม่มีเลย

“เกาหลีเหนือยังไม่พร้อมที่จะให้การต้อนรับผู้นำเพศอื่น” เธออธิบายและมองว่า “[นายคิม] แค่พยายามแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นพ่อที่น่ารัก ไม่ใช่แค่จอมเผด็จการที่เอาแต่ยิงขีปนาวุธ”

ส่วนฮยอน อิน-เอ ชาวประเทศเกาหลีเหนือแปรพักตร์ซึ่งปัจจุบันนี้ดำเนินงานที่สถาบันศึกษาการรวมชาติแห่งมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาในกรุงโซล พูดว่า “ในประเทศเกาหลีเหนือ เพศยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นหัวหน้า”

ไม่ว่าลูกผู้หญิงนายคิมจะได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจไหม แต่ปัจจุบันนี้ประเทศเกาหลีเหนือก็มีผู้นำหญิงที่เด่นรวมทั้งได้รับการจับตามองจากนานาประเทศมาหลายปีแล้ว

คิม โย จอง เกาหลีเหนือ

คิมโย จอง : น้องสาวผู้ทรงอิทธิพล

ในช่วงเวลาที่มีข่าวลือเรื่องปัญหาสุขภาพของนายคิมเมื่อปี 2020 หลายฝ่ายคาดหมายว่า นางคิม โย-จอง น้องสาวของเขาอาจได้กุมอำนาจดูแลประเทศเกาหลีเหนือ ตราบจนกระทั่งลูกของนายคิมจะโตพอที่จะดูแลบ้านเมืองได้

นางคิม โย-จอง ครอบครองตำแหน่งชั้นสูงในรัฐบาลประเทศเกาหลีเหนือมาระยะหนึ่งแล้ว รวมทั้งเมื่อเร็วๆนี้เพิ่งจะพูดขู่เข็ญประเทศเกาหลีใต้ที่กำลังพินิจพิเคราะห์ขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลประเทศเกาหลีเหนือ

แม้กระนั้น จีน แมคเคนซี ผู้สื่อข่าวบีบีซีชี้ว่า การเปิดตัวลูกผู้หญิงของนายคิมทำให้โลกเกิดคำถามต่างๆมากมายก่ายกอง

“ทำไมถึงเปิดตัวเธอตอนนี้ ? เธอยังเด็กมาก ถ้าเขาวางตัวให้เธอสืบทอดอำนาจ นี่หมายความว่านายคิมวัย 38 ปี กำลังมีปัญหาสุขภาพหรือไม่ สุขภาพของเขาเป็นเรื่องที่มีการคาดเดามากมาย เพราะถือเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อเสถียรภาพของเกาหลีเหนือ”